ไอเอฟดีโพลชี้! “ปชช. หวั่นรัฐบาลเฉพาะกิจ เพื่อพรรคมากกว่าชาติ เสถียรภาพเปราะบาง ปากท้องวิกฤต ธรรมาภิบาลถดถอย”
เมื่อ 1 ก.ย. 2568 ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) ประธานสถาบันการสร้างชาติ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา และนางจิตติมา บุญวิทยา ผู้อำนวยการไอเอฟดีโพลและเซอร์เวย์ ร่วมแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนไทยตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เรื่อง “ปชช. หวั่นรัฐบาลเฉพาะกิจ เพื่อพรรคมากกว่าชาติ เสถียรภาพเปราะบาง ปากท้องวิกฤต ธรรมาภิบาลถดถอย” 1,287 ตัวอย่าง สำรวจช่วง 29-31 ส.ค. 2568 ใน 6 ภูมิภาค สุ่มตัวอย่างความน่าจะเป็น Stratified Five-Stage Random Sampling ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% และค่าความผิดพลาด 3%
ไอเอฟดีโพลเผยผลสำรวจเสียงประชาชน พบสังคมจับตารัฐบาลเฉพาะกิจอย่างหนักทั้งด้านเสถียรภาพการบริหารระยะสั้นและมาตรฐานธรรมาภิบาล มีรายละเอียดดังนี้
ด้านเสถียรภาพและการบริหารของรัฐบาลเฉพาะกิจในช่วง 4–6 เดือน ประชาชนกังวลมากสุดเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลเปราะบาง ต่อรองอำนาจจนงานไม่เดิน 22.22% ตามด้วยปากท้องวิกฤต แก้ไม่ทัน ประชาชนรอไม่ไหว 19.76% และสถานการณ์ไทย–กัมพูชาไม่สงบ คุมไม่ได้ 18.64% ขณะที่ข้าราชการเกียร์ว่าง งานสะดุด 16.43% ส่วนการขับเคลื่อนปรับแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนไม่ได้จริง 15.62% และการจัดการความขัดแย้งของกลุ่มเห็นต่างไม่ได้ 7.33%
ด้านธรรมาภิบาลและความโปร่งใสของรัฐบาลเฉพาะกิจ ประชาชนจับตาการแต่งตั้งโยกย้ายเอื้อพวกพ้อง 24.79% และการใช้งบชาติเอื้อพรรคตนเองมากกว่าเพื่อชาติ 23.87% ขณะที่ความกังวลต่อการเตรียมเลือกตั้งไม่โปร่งใสหรือไม่ยุติธรรมอยู่ที่ 14.51% การเปิดเผยเหตุผลและข้อมูลไม่ชัด ตรวจสอบยาก 13.05% การเร่งจัดซื้อจัดจ้างหรือทำสัญญาเอื้อบางกลุ่ม 12.35% และการแทรกแซงคดีค้างหรือคดีในศาลให้พ้นผิด 11.43% ภาพรวมสะท้อนช่องว่างความเชื่อมั่นทั้งเชิงเสถียรภาพและความยุติธรรมของอำนาจรัฐ จึงท้าทายให้รัฐบาลเฉพาะกิจเร่งพิสูจน์ผลลัพธ์จริง เปิดข้อมูลเชิงหลักฐาน และคุมความเสี่ยงไม่ให้บานปลายภายใน 120 วันแรกอย่างชัดเจน
ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า ผลโพลสะท้อนประชาชนมองว่ารัฐบาลขาดเสถียรภาพ และมีจุดอ่อนด้านธรรมาภิบาล–ความโปร่งใส จนความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและความหวังต่อการพัฒนาประเทศถดถอยอย่างชัดเจน ดังนั้น ไม่ว่าใครจะขึ้นเป็นนายกฯ คนที่ 32 หรือจะเกิดฉากทัศน์ใดในช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่านสั้น ๆ นี้คือบทพิสูจน์ที่ทุกพรรคการเมืองควรร่วมมือกัน วางทิฐิลงมือกันกอบกู้วิกฤตศรัทธานี้ และจะกลายเป็นตัวแปรกำหนดทิศทางการเมืองของแต่ละพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ลักษณะประชากรและภูมิภาค
กลุ่มตัวอย่าง 1,287 ราย สำรวจ 29-31 ส.ค. 2568 ใน 6 ภูมิภาค มีลักษณะประชากรเพศชาย 44.09% หญิง 48.04% เพศทางเลือก 4.84% ไม่ระบุ 2.13% อายุ 18-25 ปี 17.72% 26-35 ปี 19.87% 36-45 ปี 22.49% 46-59 ปี 20.35% และตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 20.57% ระดับการศึกษา ประถม/ต่ำกว่า 4.79% มัธยมต้น 27.27% มัธยมปลาย/ปวช. 30.84% ปวส./อนุปริญญา 18.93% ป.ตรี 14.18% และสูงกว่า ป.ตรี 4.62% อาชีพ ข้าราชการ/ลูกจ้าง/รัฐวิสาหกิจ 8.07% พนักงาน/ลูกจ้างเอกชน 17.42% เจ้าของธุรกิจ/ค้าขาย/อาชีพอิสระ15.13% เกษตรกรรม/เลี้ยงสัตว์/ประมง 8.05% รับจ้างทั่วไป 14.15% แม่-พ่อบ้าน/เกษียณ 17.01% นักเรียน/นักศึกษา 8.21% และว่างงาน 11.96% สำรวจใน 6 ภูมิภาค กทม./ปริมณฑล 14.57% เหนือ 18.32 % กลาง 12.48% ตะวันออก 7.57% ตะวันออกเฉียงเหนือ 33.52% และใต้ 13.54%
Infographic IFD POLL Thai Government [pdf] ดาวน์โหลด
Press IFD POLL Thai Government [pdf] ดาวน์โหลด